ปัตตานี - กลุ่มชมรมผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกเเละผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกจังหวัดปัตตานี จัดอบรมเปา (ผู้ตัดสิน) เพื่อสร้างความเป็นมืออาชีพ มึความสามัคคีรวมเป็นหนึ่งเดียวก่อนถึงวันเเข่งขันจริง ในวันอาทิตย์ ที่ 25 ก.พ. นี้ ที่สนามกีฬากลาง อบจ.ปัตตานี พรัอมชิงถ้วยรางวัลที่ 1 จากเเม่ทัพภาคที่ 4 เเละมีเงินรางวัลกว่าเเสนบาท พร้อมทั้ง ชิงหางบัตรรางวัลใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์จากผู้ใหญ่ใจดีที่ร่วมสนับสนุนงานในครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 14 ก.พ.67 ที่ ห้องมินิเธียเตอร์ ชั้น 2 ณ ศูนย์การเรียนรู้ TK Park อุทยานการเรียนรู้ เทศบาลเมืองปัตตานี นายนิอันนุวา สุไลมาน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานในโครงการอบรมการเป็นคณะกรรมการตัดสินนกกรงหัวจุก จัดโดยชมรมผู้เลี้ยงเเละผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกจังหวัดปัตตานี โดยมีทีมงานหลักผู้เลี้ยงนกเเข่งจากชมรมฯ อย่าง นายอับดุลเล๊าะ สารีมา มานั่งเป็นประธานชมรม เเละนายมูฮำหมัดฟาเมย์ ซันยี เป็นที่ปรึกษาชมรม นายอัสลัม ซันยี เเกนนำกลุ่มผู้เลี้ยงและผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกคนรุ่นใหม่จ.ปัตตานี
นายนิอัวา สุไลมาน นายกเทศมนตรีฯ กล่าวว่า การเลี้ยงนกกรงหัวจุกในพื้นที่ปัตตานีบ้านเรา เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ชาวบ้านนั้นรวมกลุ่มกันตามร้านน้ำชา เพื่อเเข่งขันประชันเสียงกันมาอย่างยาวนาน เพราะนกกรงหัวจุกหรือนกปรอดหัวโขน เป็นนกที่มีรูปทรงสวย ขนสวย หน้าตาสวยงาม เเละเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือเสียงร้องตามท้วงทำนองที่แตกต่างกันไปตามเเต่ละสายพันธุ์ จึงทำให้ผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกหน้าใหม่ต่างหันมาสนใจอย่างมาก และจะพยายามผลักดันให้เป็นซอล์ฟเพาเวอร์ของจังหวัดให้ได้ ทั้งนี้ นายนิอันนุวา สุไลมาน นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปัตตานี ได้มอบเงินสนับสนุนในการจัดอบรมและการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งคาดว่ามีผู้เลี้ยงนกเข้าร่วมงานกว่าพันคน เเละยังนำนกสำหรับเเข่งขันเข้าร่วมประชันเสียงกว่า 1 พันตัว โดยใช้กติกาสากลซึ่งเปลี่ยนแปลงตามยุคปัจจุบัน คือ ใช้กติกา 4 ยก 8 ดอก (เเบบนับรวมครบ 8 ดอกเข้าชิง) (หากกรรมการเข้าช่วงนกร้องก็ถือว่าเข้าชิงเช่นเดียวกัน) ซึ่งกรรมการผู้ตัดสินจะใช้เวลา 13-14 วินาที/ขันน้ำ เเละกรรมการต้องเข้าราวนก 4 ล็อค ต่อกรรมการ 1 คน
นายอัสลัม ซันยี เยาวชนนักเลี้ยงนกกรงหัวจุกเเละยังเป็นผู้ที่เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกตามสายพันธุ์ เป็นหนึ่งในผู้เข้าอบรมคณะกรรมการตัดสินนกกรงหัวจุก กล่าวว่า ในปัจจุบันนี้ ตลาดขายนกกรงหัวจุกได้แพร่หลายในโลกโซเชียล ไม่ว่าเป็นทางเฟสบุ๊ค ติ๊กต๊อก ฯลฯ โดยมีกลุ่มผู้เลี้ยงรุ่นเก่า รุ่นใหม่ และผู้เพาะพันธุ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเเละเเพร่หลายในพื้นที่จังหวัดชายเเดนภาคใต้ สิ่งที่คาดหวังอย่างมากในงานนี้ คือ สำหรับคนรักนกกรงหัวจุก ยังคงคาดหวังให้ผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีอำนาจผลักดันร่างกฏหมายให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ ยังรวมไปถึง พ.ร.บ.ควบคุมสัตว์ป่าคุ้มครองเเละการเพาะพันธุ์สัตว์ป่าคุ้มครอง ถ้าจะให้นกกรงหัวจุกทุกตัวมาขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายนั้นมองว่าเป็นเรื่องยาก จึงอยากจะฝากไปยังผู้เกี่ยวข้องทางด้านนี้โดยตรง ไปยังกรมอุทยานเเห่งชาติเเละสัตว์ป่าคุ้มครอง ให้เเก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับผู้เลี้ยงด้วย
สำหรับการจัดการเเข่งขันมหกรรมการเเข่งขันนกกรงหัวจุก ครั้งที่ 1 ที่ จังหวัดปัตตานี จะขึ้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 ที่สนามกีฬากลาง อบจ.ปัตตานี มีค่าบัตรค่าเข้าร่วมการเเข่งขันราคา 200 บาท เเละมีการจัดอบรมให้กับคณะกรรมการที่เข้าร่วมเป็นผู้ตัดสินกว่า 40 คน โดยใช้กติกาที่ได้รับการยอมรับที่เป็นมาตรฐานทุกสนามเเข่งขันนกกรงหัวจุกในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ใช้กติกา 4 ยก 8 ดอก ซึ่งในปัจจุบันการใช้กติกานี้ กลายเป็นกติกาที่ใช้กันทุกสนามการเเข่งขันนกกรงหัวจุกในพื้นที่ สำหรับแข่งขันนกกรงหัวจุกครั้งนี้ คาดว่าจะมีเงินสะพัดหมุนเวียนในพื้นที่หลายล้านบาท เเละยังเป็นการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว ภาคเศรษฐกิจอีกด้วย
สำหรับพื้นที่ จ.ปัตตานีนั้น เป็นหนึ่งในสามจังหวัด ที่เป็นผู้มีรายได้น้อยที่สุดในประเทศไทย การจัดงานนี้จะเกิดปรากฏการณ์ใหม่ ทั้งการซื้อขายนก มีการขายอาหารนก รวมทั้งยังเป็นการสร้างความสามัคคี ในกลุ่มคนเลี้ยงนกเเละผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกสายพันธุ์ต่าง ๆ ทั่วไทย ก็จะไปเพื่อต่อยอดเป็นเม็ดเงินด้านธุรกิจสัตว์เลี้ยงต่อไป
ภาพข่าว/ ตอริก สหสันติวรกุล ปัตตานี