8 ทริกกินหมูกระทะ สุขภาพดี ไม่อ้วน ป้องกันท้องเสีย
ลดหวาน : ดื่มน้ำสะอาดแทนน้ำหวาน และกินผลไม้แทนขนมหวาน
ลดไขมัน : เลือกกินเนื้อปลา ไก่ หมูที่มีปริมาณไขมันน้อยๆ ลดเนื้อสัตว์ติดมัน เลี่ยงเนื้อสัตว์แปรรูป
ลดเค็ม : ตักน้ำจิ้มแต่น้อย จิ้มพอประมาณ หลีกเลี่ยงการซดน้ำซุป
กินช้าๆ : เคี้ยวอาหารให้ละเอียด การเคี้ยวช้าจะส่งสัญญาณไปที่สมองส่วนกลางทำให้อิ่มเร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้ลดปริมาณอาหารที่กินและควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ การกินหมูกระทะ หรือบุฟเฟ่ต์มื้อหนักๆ ไม่ควรกินเกิน 1-2 ครั้งต่อเดือน และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดี หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน ชา กาแฟ และน้ำอัดลม ซึ่งตกเย็นทุกวันหลังเลิกงาน หรือใกล้สิ้นเดือน เงินเดือนใกล้ออก หลายคนมักให้รางวัลตัวเองด้วยการกินอาหารบุฟเฟ่ต์ ปิ้งย่างมื้อหนักๆ อย่าง “หมูกระทะ” บางคนตามใจปาก และความอยากของตัวเองบ่อยๆ โดยไม่ระวัง ทำให้น้ำหนักพุ่ง ร่างกายอวบอ้วนทั้งตัวจนเครียด
วันนี้จึงมี 8 วิธีกินหมูกระทะแบบเฮลท์ตี้ ไม่อ้วน คือ
1. งดคิดกินเยอะ เน้นกินหลากหลาย หลักการกินหมูกระทะ หรือบุฟเฟ่ต์ต่างๆ เป็นการกินในปริมาณที่ให้พลังงานมากกว่าอาหารมื้อหลัก สิ่งแรกที่ควรทำ คุณปวีณา แนะนำให้เปลี่ยนความคิด จากคิดว่าต้องกินหมูกระทะ กินบุฟเฟ่ต์ให้ได้ปริมาณเยอะๆ เป็นกินให้หลากหลาย
2. กินเนื้อสลับกินผัก การกินแต่เนื้อทำให้กระเพาะทำงานหนักเพราะย่อยยาก ดังนั้นทุกครั้งที่ย่างเนื้อ ย่างหมู ให้กินผักแนม หรือนำผักมาห่อเนื้อกิน เป็นผักอะไรก็ได้ที่ชอบ เช่น ผักบุ้ง ผักกวางตุ้ง ผักกะหล่ำปลี ผักกาดขาว โหระพา
3. จิ้มน้ำจิ้มพองาม ใช้แค่ถ้วยเดียว น้ำจิ้มหมูกระทะสามารถปรุงรสชาติเพิ่มด้วยพริก กระเทียม หรือเติมน้ำเปล่าเพื่อเจือจางน้ำจิ้มได้ เพื่อสุขภาพที่ดีควรกินน้ำจิ้มถ้วยเดียว โดยจิ้มน้ำจิ้มแต่พอดี จะจิ้มหนึ่งในสาม หรือครึ่งชิ้นของหมูย่าง เนื้อย่างก็ได้ ระวังการชุบเนื้อทั้งชิ้นลงในน้ำจิ้มจนชุ่ม จะทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป เพราะในน้ำจิ้ม 1 ถ้วย มีโซเดียมสูงประมาณ 900-1,000 กว่ามิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ หรือสูตรน้ำจิ้มหมูกระทะของแต่ละร้าน
4. กินคาร์บ เพื่อลดแคล บางคนคิดว่าไปร้านหมูกระทะให้ได้กำไร คุ้มกับเงินค่าบุฟเฟ่ต์ “ต้องกินเนื้อ” ให้มาก ไม่กินข้าว แป้ง เส้นต่างๆ จะขาดทุนนั้น เป็นความคิดที่ผิด เพราะหากกินแต่เนื้อ จะทำให้ได้รับไขมันมากขึ้น เพื่อดีต่อสุขภาพ เกิดความสมดุลควรกินคาร์โบไฮเดรตจากข้าว ผักต่างๆ ฟักทอง วุ้นเส้น เส้นบุก ปริมาณไม่เยอะมากแซมด้วย
5. ดื่มน้ำเปล่า โซดา ชารสจืด แทนน้ำหวาน น้ำอัดลม อีกออปชันเสริมที่มาพร้อมกับหมูกระทะ บุฟเฟ่ต์ คือ น้ำดื่ม หรือน้ำหวาน แบบรีฟิลเติมไม่อั้น ความเข้าใจว่าน้ำอัดลมช่วยย่อยนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเครื่องดื่มเหล่านั้นมีรสหวาน ให้พลังงานสูง และไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ควรกินน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มรสจืด หากอยากสดชื่น แนะกดโซดาเปล่ามาดื่ม แต่หากอยากหวานนิดๆ ให้ผสมโซดาเปล่ากับน้ำอัดลม หรือผสมน้ำผลไม้เข้ากับโซดาหรือน้ำเปล่า เพื่อเจือจางปริมาณน้ำตาล
6. แยกใช้ “ตะเกียบ” ป้องกันท้องเสีย ส่วนใหญ่หลังกินหมูกระทะ หลายคนมักท้องเสีย ซึ่งเกิดจากการปนเปื้อนที่ตะเกียบ โดยนำตะเกียบไปคีบเนื้อดิบเพื่อย่าง แล้วใช้ตะเกียบคู่เดิมคีบผัก หรือเนื้อที่สุกแล้วเข้าปาก ทำให้เชื้อจุลินทรีย์ในเนื้อดิบที่ติดกับตะเกียบเข้าปากจึงทำให้ท้องเสีย เพราะฉะนั้นควรแยกใช้ตะเกียบคีบของสุก กับตะเกียบคีบของดิบ
7. อิ่มควรหยุด หากถึงจุดอิ่มให้หยุดกิน เพราะหากกินจน Over eating เกินไปจะส่งผลให้จุกเสียด แน่นท้อง อย่ากินเยอะจนอ้วก หากกินอิ่มแล้วอย่านอนทันที ให้เว้นระยะเวลาผ่านไป 4 ชั่วโมงจึงนอนได้ เพื่อป้องกันการเกิดโรคกรดไหลย้อน
8. นานทีค่อยจัดหมูกระทะ โค้ดสุขภาพดี 2 : 1 : 1 ควรกินหมูกระทะ หรือบุฟเฟ่ต์มื้อหนักๆ ประมาณเดือนละ 1-2 ครั้ง และเสริมด้วยการสร้างสมดุลให้ร่างกายเพื่อสุขภาพแข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย รวมถึงยึดหลักการกิน 2 : 1 : 1 เพื่อช่วยลดพุงและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ แต่ละมื้อ อาหารในจานควรแบ่งเป็นผัก 2 ส่วน แป้ง เนื้อสัตว์ 1 ส่วน.
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของภัยแฝงปิ้งย่างหมูกระทะ 
สารพัยโรลัยเซต พบมากในส่วนที่ไหม้เกรียมของอาหาร ปิ้ง ย่าง เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งได้ 
สารไนเตรต พบได้ในอาหารที่ใส่สารกันบูด เช่น แหนม ไส้กรอก เบคอน แฮม      
สารไนโตรซามีน พบในปลาหมึกย่าง ปลาทะเลย่าง ก่อให้เกิดมะเร็งในสัตว์ได้ และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการ เกิดมะเร็งในตับมะเร็งหลอดอาหาร และมะเร็งกระเพาะอาหารในคน
สารพีเอเอช หรือสารกลุ่มโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน พบได้ในอาหารปิ้งย่าง เช่น ไส้กรอกรมควัน หมูปิ้ง ไกย่าง ที่ไหม้เกรียม เป็นสารเริ่มต้นของสารกลายพันธุ์

------------------------------------------------------------------------------

ผู้จัดทำ/เรียบเรียง : นางสาวณัฏฐนันท์ คงทน / นสม.ชก
หน่วยงาน : ฝ่ายข่าวและรายการ สวท.ปัตตานี
แหล่งที่มา : เพจ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ https://shorturl.asia/igtOT/ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข 
                https://shorturl.asia/9wsCQ / ไทยรัฐออนไลน์ https://shorturl.asia/pDSN4