วันนี้ (7 เม.ย.67) เวลา 17.00 น. ณ อาคารเอนกประสงค์ เรือนจำกลางปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดกิจกรรมละศีลอด รอมฎอนสัมพันธ์ ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ยุติธรรมนำสันติสุข โดยมี นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วย นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานรัฐสภา นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ นายสาเหะมูหามัด อัลอิดรุส นายวรวิทย์ บารู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปัตตานี นายเพิ่มผล เธียรดุสิต ผู้บัญชาการเรือนจำประธานเขต 9 นายพิทักษ์ หนูน้อย ผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี นายบาฮารูดิน ยูโซ๊ะ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดปัตตานี ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำกลางปัตตานี เข้าร่วมกิจกรรม
ภายในกิจกรรม ผู้เข้าร่วมลงทะเบียนและจัดเก็บสัมภาระที่ไม่สามารถนำเข้าภายในเรือนจำฯ เพื่อเดินทางไปยังอาคารเอนกประสงค์ มีกิจกรรมภาคเวทีด้วยการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน โดยตัวแทนผู้ต้องขัง และเมื่อประธานในพิธีเดินทางมาถึง นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต้อนรับ ประธานในพิธีกล่าวเปิดกิจกรรม พร้อมกล่าวนาซีฮัต และดุอาให้แก่ผู้ต้องขังและผู้ร่วมกิจกรรม นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ กล่าวพบปะผู้ต้องขังและผู้ร่วมกิจกรรม มีผู้ต้องขังที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ จำนวนทั้งสิ้น 200 คน แบ่งเป็นผู้ต้องขังชาย 170 คน และผู้ต้องขังหญิง จำนวน 30 คน กิจกรรมนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังในเรือนจำร่วมละศีลอดบนโต๊ะอาหารด้วยกัน ถือเป็นการร่วมงานกิจกรรมเปิดคุก-เปิดปอซอ ครอบครัวสัมพันธ์ ทั้งนี้ เดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่ประเสริฐ เป็นกิจกรรมที่ดีมีความสุข เป็นการแสดงให้เห็นว่าภาครัฐเข้าใจในศาสนา ซึ่งหน่วยงานรัฐแต่ละหน่วยมีความเข้าใจต่อการปฏิบัติศาสนกิจของทุกศาสนิกอย่างเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะศาสนาอิสลามที่เป็นหมู่มาก สนับสนุนให้พี่น้องมุสลิมเข้าถึงการปฏิบัติศาสนกิจตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะการถือศีลอด เป็นการฝึกฝน และสอนตนเอง ให้มีความอดทน มีเมตตา เห็นอกเห็นใจผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก และดำรงตนอยู่บนหนทางสิ่งที่ดีงาม
เรือนจำกลางปัตตานี เป็นราชการบริหารส่วนกลาง สังกัดกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เดิมตั้งอยู่เชิงสะพานเดชานุชิต ถนนพิพิธ ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ต่อมา เนื่องจากชุมชนในเขตเทศบาลเมืองได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว กระทรวงมหาดไทยในสมัยนั้นได้พิจารณาเห็นว่าบริเวณที่ตั้งของเรือนจำไม่เหมาะสม จึงได้มีนโยบาย ให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการสร้างเรือนจำขึ้นใหม่ และได้ย้ายมาอยู่ที่ถนนเกษมสำราญ หรือถนนนาเกลือเดิม เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2508 เป็นต้นมา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ ให้ยกฐานะเรือนจำจังหวัดปัตตานีเป็นเรือนจำกลางปัตตานี และเรือนจำพิเศษปัตตานี เพื่อให้มีสถานะเป็นราชการบริหารส่วนกลาง เรือนจำกลางปัตตานีมีขนาดพื้นที่ 109 ไร่ 89 ตารางวา โดยแบ่งแบ่งเป็นพื้นที่ภายในเรือนจำ 12 ไร่ 16 ตารางวา ประกอบด้วยเรือนนอนชาย 4 หลัง เรือนนอนหญิง 1 หลัง พื้นที่ภายนอกประกอบด้วยบ้านพักข้าราชการ 29 หลัง อาคารที่ทำการ 1 หลัง อาคารเยี่ยมญาติ 1 หลัง