วันนี้ (17 เม.ย.67) เวลา 09.30 ณ โรงแรม ซี.เอส.ปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นประธานเปิดการสัมมนาเพื่อชี้แจงและเผยแพร่ผลการศึกษาโครงการศึกษาการจัดทำ Model การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคม ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน (จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) เชื่อมโยงกับพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภายใต้กรอบ GMS เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว โดยมี นายวีรพัฒน์ บุญฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ประชาสัมพันธ์จังหวัดปัตตานี ประชาสัมพันธ์จังหวัดนราธิวาส ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมระบบการขนส่งและจราจรในภูมิภาค นโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ผู้แทนภาคเอกชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ตลอดจน เจ้าหน้าที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เข้าร่วม

สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ได้เห็นถึงความสำคัญ จึงจัดทำโครงการศึกษาการจัดทำ Model ขึ้น เพื่อนำเสนอข้อมูลความก้าวหน้าของผลการศึกษา ฯ ประกอบด้วยแผนปฏิบัติการด้านพัฒนาโครงข่ายการคมนาคม และระบบโลจิสติส์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว พร้อมรับฟังข้อมูล ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ จากผู้เข้าร่วมการสัมมนา โดยจะนำข้อมูลไปประกอบการศึกษา ฯ และกำหนดแนวทางการพัฒนาของโครงการให้เกิดความเหมาะสม ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาด้านต่างๆ ที่สำคัญ นอกจากนั้น สนข. จะได้นำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อนำไปพิจารณาประกอบการศึกษา รวมทั้งกำหนดแนวทางการพัฒนาของโครงการให้เกิดความเหมาะสม ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาด้านต่างๆ ที่สำคัญ เพื่อให้การศึกษามีความสมบูรณ์ และสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป

ด้านนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานถือเป็นรากฐานที่สำคัญของการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้ให้ความสำคัญ กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและระบบโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศที่ครอบคลุมพื้นที่ รวมถึงสามารถรองรับความต้องการของประชาชน ทั้งในระดับครัวเรือน อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจโลก โครงสร้างประชากร เทคโนโลยี ทำให้ประเทศไทยต้องเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น ในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยจำเป็นต้องปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจทั้งระบบ เพื่อยกระดับการพัฒนาประเทศให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ยุทธศาสตร์ที่ 2 ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน จึงได้กำหนดแนวทางการพัฒนาที่ให้ความสำคัญ กับการพัฒนากลไกการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริการ และการท่องเที่ยว มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพด้านโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่เขตเมือง รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกและลดต้นทุนในภาคการขนส่ง