วันนี้ (18 เม.ย.67) เวลา 09.00 น. ณ ป้อมจุดตรวจหน่วยบริการประชาชน ใกล้กับปั๊ม ปตท.ปาลัส อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วย นายอำเภอปะนาเระ นายอำเภอมายอ ผู้แทนแขวงทางหลวงปัตตานี ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการตรวจสอบเส้นทางในความรับผิดชอบ ทางหลวงหมายเลข 42 ตอน บ้านดี-ปาลัส ระหว่าง กม.134+626 – กม.135+423 ด้านขวาทาง พบว่าได้มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง (หลังคาและทางเท้า) รุกล้ำเขตทางหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ตามที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดปัตตานี ได้รับแจ้งจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีมีผู้ร้องเรียนได้ยื่นร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาและแสวงหาข้อเท็จจริง ซึ่งจังหวัดปัตตานี ได้แจ้งอำเภอปะนาเระ อำเภอเมืองปัตตานี เทศบาลตำบลรูสะมิแล และองค์การบริหารส่วนตำบลควน ตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนอย่างเหมาะสมแล้ว จึงวินิจฉัยยุติเรื่องร้องเรียนในเรื่องนี้ ตามมาตรา 37 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ.2560 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนในพื้นที่ และเป็นไปตามคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดิน จังหวัดปัตตานีจึงได้แจ้งแขวงทางหลวงปัตตานี อำเภอมายอ และอำเภอปะนาเระ ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการก่อสร้างอาคารรุกล้ำทางเท้าสาธารณะ ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย พร้อมติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานให้จังหวัดปัตตานีทราบทุกวันที่ 20 ของเดือน จนกว่าจะแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จ จากนั้น จังหวัดปัตตานีจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกัน ลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาการก่อสร้างอาคารรุกล้ำทางเท้าสาธารณะ ตำบลควน อำเภอปะนาเระ และตำบลลางา อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ในวันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน 2567 ให้มีความถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมายต่อไป

สำหรับการรุกล้ำเขตทางหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาตครั้งนี้ ถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 (พ.ศ.2549) มาตรา 47 บัญญัติว่า ห้ามมิให้ผู้สร้างอาคารหรือสิ่งอื่นใดในเขตทางหลวง หรือรุกล้ำเข้าไปในเขตทางหลวง จึงมีหนังสือขอให้มีการเร่งรัดดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง (หลังคาและทางเท้า) ให้แล้วเสร็จ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากหมวดทางหลวงปะนาเระ ที่ได้มีการยื่นต่อเจ้าของอาคารหรือผู้แทน ที่เป็นกรณีตามประเด็นปัญหาดังกล่าว และห้ามมิให้ดำเนินการก่อสร้างหรือรุกล้ำเข้าไปในเขตทางหลวงอีกต่อไป หากฝ่าฝืน มีโทษตามมาตรา 72 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ